จระเข้ตัวหนึ่งหากินอยู่ในบึงใหญ่ใกล้กับชายป่า ครั้นเมื่อมองเห็นกระต่ายสีขาวตัวอ้วนพี กระโดดโลดเต้นมาเล่นอยู่ที่ริมบึง จระเข้ก็นึกอยากกินกระต่ายอ้วนตัวนั้นจึงค่อยๆ แหวกว่ายสายน้ำเข้าไปที่ริมบึงน้ำอย่างเงียบกริบ
แต่ทว่ากระต่ายน้อยนั้นเป็นกระต่ายแสนฉลาด เมื่อเห็นจระเข้ตรงเข้ามาใกล้ก็กระโดดหนีไปตั้งหลักเล็กน้อยแล้วจึงเอ่ยขึ้นว่า
"สวัสดีจระเข้ เธอคงจะเป็นผู้ยิ่งใหญ่แห่งบึงนี้ใช่ไหมล่ะ ฉันเป็นกระต่ายตัวน้อยๆ อยากขอเป็นเพื่อนกับเธอได้ไหมเล่า"
เมื่อเห็นกระต่ายน้อยไม่ตกใจกระโดดหนีไป แต่กลับชวนพูดคุยด้วยอัธยาศัยดีเช่นนั้นจระเข้ก็ดีใจคิดไปว่า ถ้าเป็นเช่นนี้เห็นทีจะหลอกกินกระต่ายได้ง่ายดายโดยไม่ต้องออกแรงกำลังมากนัก จระเข้จึงเอ่ยอย่างใจดีว่า
"ได้สิ เจ้าสัตว์ตัวน้อยน่ารัก ถ้าอยากเป็นเพื่อนกับข้า ข้าก็ยินดีจะเป็นเพื่อนกับเจ้า"
กระต่ายนั้นมีความฉลาดเฉลียว นอกจากจะมิกลัวเกรงจระเข้แล้ว ยังคิดหลอกใช้จระเข้อีกด้วย มันนึกอยากกินผลมะเดื่อที่กำลังสุกหอมเต็มต้นอยู่บนอีกฟากฝั่งหนึ่ง กระต่ายจึงเอ่ยว่า
"ในเมื่อเราสองก็เป็นเพื่อนกันแล้ว เธอจะยอมให้ฉันขึ้นนั่งบนหลังเธอข้ามไปเที่ยวเล่นยังฝั่งโน้นได้หรือไม่ล่ะ"
จระเข้ได้ยินเช่นนั้นก็นึกขันอยู่ในใจที่เจ้ากระต่ายน้อยตัวนี้ช่างกล้าดีขอขึ้นหลังตนข้ามไปยังอีกฝั่งหนึ่งของบึงน้ำ จระเข้คิดว่ากระต่ายโง่งมนักจึงเอ่ยว่า
"ได้สิ ข้าว่ายน้ำไปมาอยู่ทั้งวัน แค่ให้เจ้านั่งกลางหลังข้ามไปแค่นี้ทำไมจะช่วยเพื่อนไม่ได้"
จระเข้คิดในใจว่าประเดี๋ยวเถอะเมื่อไปถึงกลางบึงน้ำแล้ว ก็จะได้กินกระต่ายตัวอ้วนนี้ให้เอร็ดอร่อยสมใจ เจ้ากระต่ายน้อยนั้นก็รีบกระโดดขึ้นไปนั่งลงบนกลางหลังจระเข้อย่างแสนสบาย ขณะที่จระเข้เริ่มแหวกว่ายไปในบึงน้ำอย่างช้าๆ ครั้นเมื่อว่ายมาถึงกลางบึงน้ำ จระเข้ก็หันหน้ามาอ้าปากจะงับกระต่ายไว้ แต่กระต่ายรีบร้องห้ามอย่างมีสติว่า
"ประเดี๋ยวสิ เพื่อนจระเข้เอ๋ย ถ้าคิดจะกินฉันอย่าเพิ่งกินตอนนี้เลยรอให้ถึงฝั่งก่อนค่อยกินฉันแล้วกันนะ"
จระเข้ได้ยินเช่นนั้นก็หัวเราะเสียงก้องกังวานพลางว่า
"เจ้ากระต่ายน้อยโง่งมคิดว่าฉลาดแล้วหรือ ถ้าปล่อยให้เจ้าขึ้นไปถึงบนฝั่งเจ้าก็กระโดดหนีเข้าป่าไปน่ะสิ"
"ฉันไม่หนีเธอหรอกจะหนีทันได้อย่างไร ฉันตัวเล็กนิดเดียว ส่วนเธอนั้นทั้งตัวใหญ่ทั้งว่องไวปานนั้น"
เมื่อได้ยินคำกล่าวเป็นเชิงยกย่องเช่นนั้นจระเข้ก็ยอมยับยั้งใจไม่กินกระต่ายที่กลางบึงน้ำแต่รีบแหวกว่ายไปจนถึงริมบึง ครั้นเมื่อถึงริมบึงน้ำแล้วจระเข้ก็คำรามว่า
"เอาล่ะทีนี้ข้าจะกินเจ้าล่ะ เจ้ากระต่ายโง่"
กระต่ายค่อยๆ คลานลงจากหลังจระเข้พลางเอ่ยอย่างใจดีสู้เสือว่า
"เจ้าพูดอย่างนี้ไม่น่ากลัวสมกับตัวเจ้าเลย เจ้าควรจะหัวเราะดังๆ เป็นการขู่ขวัญข้าสิ ข้าจะได้ขาสั่นวิ่งหนีไปไหนไม่ได้"
จระเข้ได้ยินเช่นนั้นก็หลงเชื่อ มันรีบอ้าปากกว้างเต็มที่แล้วหัวเราะ ฮ่าๆๆๆ ดังกังวานไปทั่วป่าใหญ่แห่งนั้น
ครั้นเมื่อจระเข้อ้าปากหัวเราะร่าแล้ว กระต่ายก็ได้โอกาสรีบกระโดดเข้าไปดึงลิ้นของจระเข้ออกมาอย่างแรงจนลิ้นจระเข้ยาวออกมานอกปาก แล้วมันก็กระโดดถีบลิ้นจระเข้อย่างสุดแรงกำลัง จนกระทั่งลิ้นของจระเข้ขาดผึงในทันที แล้วกระต่ายก็รีบกระโดดหนีขึ้นไปบนต้นมะเดื่อที่ริมน้ำเก็บผลมะเดื่อกินอย่างเอร็ดอร่อยพลางหัวเราะเยาะเย้ยจระเข้ที่ร้องโอดโอยอยู่ริมบึงน้ำนั่นเอง
นับแต่นั้นมาจระเข้จึงไม่มีลิ้นเหมือนกับสัตว์อื่นๆ ทั่วไป
ดูนิทานเรื่องอื่นๆ