8:00 น. 12 กันยายน พ.ศ.2502 มีผู้พบศพหญิงสาวนิรนามลอยน้ำทางฝั่งตะวันตกของแม่น้ำเจ้าพระยาในเขตจังหวัดนนทบุรี สภาพศพขึ้นอืด มือพาดอก สวมเสื้อสีฟ้าอ่อนแขนกุด และสวมกระโปรงสีดำ พบหลักฐานเป็นนาฬิกาเรือนทองยี่ห้อโอเมก้าและแหวนลงยาสลักสกุลรามเดชะ การชันสูตรพลิกศพพบว่าผู้ตายถูกแทงที่ชายโครงซ้าย 1 แผล ชายโครงขวา 2 แผล โลหิตตกใน คาดว่าเสียชีวิตมาแล้วประมาณ 24 ชั่วโมง ต่อมาเจ้าหน้าที่สืบทราบว่าหญิงสาวผู้ตายคือนางนวลฉวี สุญาณเศรษฐกร พยาบาลสาวสถานพยาบาลโรงงานยาสูบ และเป็นภรรยาของนายแพทย์อธิป สุญาณเศรษฐกร แพทย์โรงพยาบาลรถไฟ
โดยนางนวลฉวีได้หายตัวไปตั้งแต่วันที่ 10 กันยายน จากการสอบปากคำ เจ้าหน้าที่พบพิรุธบางอย่างในคำให้การของนาบแพทย์อธิป สามีของนวลฉวี นอกจากนั้นยังตรวจพบบาดแผลเป็นรอยข่วนหลายแห่งบนร่างกายของนายแพทย์อธิป ซึ่งให้การอ้างว่าเป็นบาดแผลที่เกิดจากการทำคลอดคนไข้ จากรอยบาดแผลที่เป็นพิรุธและพฤติกรรมที่น่าสงสัย ทำให้นายแพทย์อธิปตกเป็นผู้ต้องหาในคดีฆาตกรรมนวลฉวี ภรรยาของตนเอง
ลำดับเหตุการณ์ที่นำมาสู่คดีฆาตกรรมสะเทือนขวัญ จุดเริ่มต้นมาจากในช่วงปี 2501 นายแพทย์อธิปได้พบรักกับนวลฉวีที่จังหวัดลำปาง จนกระทั่งตัดสินใจจดทะเบียนสมรสกันเมื่อวันที่ 11 มีนาคม 2502 แต่หลังจากนั้นเพียง 6 วัน นายแพทย์อธิปได้จดทะเบียนสมรสซ้อนกับนางสาวสมบูรณ์ สืบสมานอีกคน ปมปัญหาจึงเริ่มก่อตัวขึ้น 13 กรกฏาคม 2502 นวลฉวีได้เข้าแจ้งความต่อพนักงานสอบสวน สถานีตำรวจนครบาลพญาไท ให้ดำเนินคดีกับหมออธิปในข้อหาทำร้ายร่างกาย โดยขณะเข้าแจ้งความนวลฉวีมีบาดแผลที่ตาซ้ายและจมูกมีรอยช้ำบวม จนกระทั่งช่วงเย็นของวันที่ 10 กันยายน มีพยานพบเห็นนายแพทย์อธิป ขับรถพานวลฉวีเดินทางออกไปจากโรงพยาบาลยาสูบ ซึ่งเป็นครั้งสุดท้ายที่มีผู้พบเห็นนวลฉวีในขณะที่ยังมีชีวิตอยู่ ก่อนที่เธอจะถูกสังหารอย่างโหดเหี้ยม
12 ธันวาคม 2503 ศาลอาญามีคำพิพากษาความผิดของนายแพทย์อธิป ฐานฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน และฐานก่อให้ผู้อื่นร่วมกระทำความผิด ให้ระวางโทษประหารชีวิต ในขณะเดียวกันศาลก็มีคำพิพาษาให้จำคุกตลอดชีวิตนายมงคล เรื่อเรืองรัตน์ ฐานร่วมกระทำความผิดฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา แต่ภายหลังนายมงคลที่ถูกระบุว่าเป็นมือมีดสังหารนางนวลฉวีได้รับพระราชทานอภัยโทษ หลังจากถูกกักขังในเรือนจำเป็นเวลา 8 ปี ในขณะที่นายแพทย์อธิปก็ได้พระราชทานอภัยโทษ หลังจากถูกจำคุกเป็นเวลา 12 ปี
พบศพศยามล |
33 ปี ผ่านไป ไม่มีใครคาดคิดว่าคดีพิศวาสฆาตกรรมได้ปรากฏขึ้นมาอีกครั้ง 29 กันยายน 2536 พบรถเก๋งนิสสันสีขาว หมายเลขทะเบียน ก-2344 ประจวบคีรีขันธ์ จอดอยู่ข้างถนนในเขตอำเภอบ้านลาด จังหวัดเพชรบุรี ภายในมีเสียงร้องเด็กดังออกมา เมื่อเดินไปที่รถ พบผู้เสียชีวิตเป็นหญิงสาวคนหนึ่ง บนตัวของเธอมีเด็กผู้หญิงคนหนึ่งกอดศพร้องไห้อย่างน่าเวทนา
การสืบสวนทราบว่าผู้ตายคือนางศยามล ลาภก่อเกียรติ เจ้าของร้านเสื้อบารมีในศูนย์การค้าหัวหินคอมเพล็กซ์ โดยนางศยามลได้หายตัวไปตั้งแต่คืนก่อนเกิดเหตุ เจ้าหน้าที่ได้ตั้งประเด็นฆาตกรรมไปที่อดีตสามี นายแพทย์บัณฑิต โฆษิตชัยวัฒน์ มีความขัดแย้งกันรุนแรงในประเด็นเรื่องชู้สาว
นายแพทย์บัณฑิต โฆษิตชัยวัฒน์ |
แม้ว่าฆาตกรจะพยายามอำพรางให้เป็นคดีฆ่าข่มขืนและชิงทรัพย์ ในเวลาต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจสืบทราบว่านายบรรจบ นิลห้อยคือผู้ประสานงานในการว่าจ้างกลุ่มฆาตกรในการสังหารนางศยามล การสอบปากคำนายบรรจบนำมาสู่การจับกุมนายแพทย์บัณฑิต ในข้อหาจ้างวานสังหาร และสามารถจับกลุ่มผู้ร่วมลงมือฆ่าศยามลสามคน
22 ธันวาคม 2537 ศาลชั้นต้นมีคำสั่งตัดสินให้ประหารชีวิตนายแพทย์บัณฑิต 2 ตุลาคม 2538 ศาลอุทธรณ์ยืนยันคำพิพากษาตัดสินของศาลชั้นต้น และ 23 กันยายน 2539 ศาลฎีกายืนยันคำพิพากษาตัดสินของศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์ให้ประหารชีวิตนายแพทย์บัณฑิต โฆษิตชัยวัฒน์
บทความแนะนำ
เรื่องราวน่ารู้เรียบเรียงจากสารคดีคุณภาพในรูปแบบบทความ
กดถูกใจแฟนเพจเพื่อติดตามและอัพเดตบทความใหม่ๆ คลิกเลย
กดถูกใจแฟนเพจเพื่อติดตามและอัพเดตบทความใหม่ๆ คลิกเลย